ชาวเกาหลี กับ การอพยพ
ชาวเกาหลีพากันอพยพออกนอกประเทศ กระจายกันไปหลายประเทศทั้งถูกและผิดกฎหมาย
สหรัฐอเมริกา เป็นที่หนึ่งที่ชาวเกาหลีอพยพไป ก่อเนื้อสร้างตัวเป็นจำนวนมาก
เรื่องราวของชาวต่างชาติที่อพยพเข้าไปอยู่ในสหรัฐ รัฐเวอร์จิเนีย เป็นย่านเชื้อชาติเกาหลี ที่ทราบกันดีว่าสหรัฐเป็นสังคมของผู้อพยพ ชาวยุโรปเข้าไปตั้งหลักแหล่งในอเมริกาหลังจากคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เดินเรือไปถึงทวีปนั้นเมื่อปี 2035 หลังจากผู้ไปตั้งหลักแหล่งที่นั่นรวมตัวกันประกาศตนเป็นประเทศเอกราชเมื่อปี 2319 แล้ว สหรัฐก็ยังเปิดรับผู้อพยพจากยุโรปแบบไม่อั้นต่อมาเป็นเวลานาน แต่ในปัจจุบันสหรัฐจำกัดจำนวนผู้อพยพทั้งจากยุโรป และประเทศอื่น นอกจากผู้ที่อพยพเข้าไปแบบถูกกฎหมาย เช่น ผู้ที่ลักลอบเข้าไปอีกปีละมากๆ โดยเฉพาะจากละตินอเมริกาเพราะทุกคนมองว่า สหรัฐจะเปิดโอกาสให้เขาก่อร่างสร้างตัวได้เร็ว
ผู้อพยพเข้าไปใหม่มักไปตั้งหลักแหล่งในย่านที่มีผู้อพยพจากชาติเดียวกันตั้งหลักแหล่งอยู่ก่อนแล้ว ในรัฐเวอร์จิเนียตอนเหนือ ซึ่งเชื่อมต่อกับกรุงวอชิงตันมีชุมชนของผู้อพยพอยู่หลายชุมชน รวมทั้งเกาหลีและญวน ผู้อพยพส่วนใหญ่มักใช้โอกาสทองของตน ก่อร่างสร้างตัวอย่างทุ่มเท จำนวนมากประสบความสำเร็จโดยเฉพาะชาวเกาหลีซึ่งมีความขยันหมั่นเพียรเป็นเลิศ ฉะนั้นในย่านนั้นจึงมีพื้นที่ส่วนหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยชาวเกาหลีจนมีสมญาว่า "เมืองเกาหลี" (Korean Town) ในทำนองเดียวกันกับที่เมืองใหญ่ๆ ในส่วนต่างๆ ของโลกมี "เมืองจีน" (Chinatown)
ในย่านกรุงวอชิงตันและปริมณฑลชาวเกาหลียึดธุรกิจซักรีดไว้ได้เป็นส่วนใหญ่ ชาวเกาหลีที่อพยพเข้าไปในย่านนั้น จึงมักได้งานในร้านซักรีดของชาวเกาหลีด้วยกันเป็นงานแรก เช่น ครอบครัวของนักศึกษาผู้ก่อเหตุ
ความมุ่งมั่นในการก่อร่างสร้างตัวของชาวเกาหลีและผู้อพยพเข้าไปในสหรัฐใหม่ๆ มักผลักดันให้พวกเขา ทำงานกันแบบหามรุ่งหามค่ำ จำนวนมากทำงานสองสามอย่าง ในแต่ละวันพวกเขาส่วนใหญ่จึงแทบไม่มีเวลาเห็นหน้าลูก แต่พวกเขาจะกดดันให้ลูกเรียนหนังสืออย่างทุ่มเท การกดดันนี้มีผลทันตาเห็น นั่นคือ ทุกครั้งที่มีการประกาศรายชื่อนักเรียนมัธยม ที่มีผลการเรียนเป็นเลิศ จะมีชื่อของเด็กเกาหลีและเด็กญวนติดอยู่ในอันดับต้นๆ หลายคนเสมอ
การทำงานอย่างทุ่มเทมีผลดีในแง่ที่ชาวเกาหลีจะตั้งตัวได้อย่างรวดเร็วและส่วนใหญ่ซื้อบ้านได้ในเวลาอันสั้น เช่น พ่อแม่ของผู้ก่อเหตุ ความดกดันจากพ่อแม่เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เด็กเกาหลีสอบได้คะแนนสูง และสามารถเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยชั้นดี เช่นเวอร์จิเนียเทคได้เป็นจำนวนมาก แต่ในขณะเดียวกันไม่เป็นที่น่าแปลกใจ ที่ในบางกรณีจะมีเด็กที่ปรับตัวไม่ได้ และสะสมความเก็บกดไว้เป็นเวลานาน
เมื่อไปเผชิญกับความกดดันอันเกิดจากการแข่งขันหาความเป็นเลิศอย่างเข้มข้นและความเป็นตัวใครตัวมันสูงในสังคมภายนอก
ผู้อพยพเข้าไปใหม่มักไปตั้งหลักแหล่งในย่านที่มีผู้อพยพจากชาติเดียวกันตั้งหลักแหล่งอยู่ก่อนแล้ว ในรัฐเวอร์จิเนียตอนเหนือ ซึ่งเชื่อมต่อกับกรุงวอชิงตันมีชุมชนของผู้อพยพอยู่หลายชุมชน รวมทั้งเกาหลีและญวน ผู้อพยพส่วนใหญ่มักใช้โอกาสทองของตน ก่อร่างสร้างตัวอย่างทุ่มเท จำนวนมากประสบความสำเร็จโดยเฉพาะชาวเกาหลีซึ่งมีความขยันหมั่นเพียรเป็นเลิศ ฉะนั้นในย่านนั้นจึงมีพื้นที่ส่วนหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยชาวเกาหลีจนมีสมญาว่า "เมืองเกาหลี" (Korean Town) ในทำนองเดียวกันกับที่เมืองใหญ่ๆ ในส่วนต่างๆ ของโลกมี "เมืองจีน" (Chinatown)
ในย่านกรุงวอชิงตันและปริมณฑลชาวเกาหลียึดธุรกิจซักรีดไว้ได้เป็นส่วนใหญ่ ชาวเกาหลีที่อพยพเข้าไปในย่านนั้น จึงมักได้งานในร้านซักรีดของชาวเกาหลีด้วยกันเป็นงานแรก เช่น ครอบครัวของนักศึกษาผู้ก่อเหตุ
ความมุ่งมั่นในการก่อร่างสร้างตัวของชาวเกาหลีและผู้อพยพเข้าไปในสหรัฐใหม่ๆ มักผลักดันให้พวกเขา ทำงานกันแบบหามรุ่งหามค่ำ จำนวนมากทำงานสองสามอย่าง ในแต่ละวันพวกเขาส่วนใหญ่จึงแทบไม่มีเวลาเห็นหน้าลูก แต่พวกเขาจะกดดันให้ลูกเรียนหนังสืออย่างทุ่มเท การกดดันนี้มีผลทันตาเห็น นั่นคือ ทุกครั้งที่มีการประกาศรายชื่อนักเรียนมัธยม ที่มีผลการเรียนเป็นเลิศ จะมีชื่อของเด็กเกาหลีและเด็กญวนติดอยู่ในอันดับต้นๆ หลายคนเสมอ
การทำงานอย่างทุ่มเทมีผลดีในแง่ที่ชาวเกาหลีจะตั้งตัวได้อย่างรวดเร็วและส่วนใหญ่ซื้อบ้านได้ในเวลาอันสั้น เช่น พ่อแม่ของผู้ก่อเหตุ ความดกดันจากพ่อแม่เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เด็กเกาหลีสอบได้คะแนนสูง และสามารถเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยชั้นดี เช่นเวอร์จิเนียเทคได้เป็นจำนวนมาก แต่ในขณะเดียวกันไม่เป็นที่น่าแปลกใจ ที่ในบางกรณีจะมีเด็กที่ปรับตัวไม่ได้ และสะสมความเก็บกดไว้เป็นเวลานาน
เมื่อไปเผชิญกับความกดดันอันเกิดจากการแข่งขันหาความเป็นเลิศอย่างเข้มข้นและความเป็นตัวใครตัวมันสูงในสังคมภายนอก
1 ความคิดเห็น:
เราต้องมองเกาหลี หรือประเทศอื่นๆเป็นตัวอย่างในความทุ่มเท เมื่ออยู่ประเทศที่ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอน ก็ ต้องทำตัวให้ ชาตินั้นเห็นถึงความสามารถ หาใช่เพียงแต่ ไปเป็นแรงงานอย่างเดียว
แสดงความคิดเห็น